สถาบันให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แจ้งความจำนง ผู้เข้าอบรม รวมไปถึงศิษย์เก่าทุกท่าน ในการนี้ เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สถาบันจึงขอแจ้งให้ท่านทราบว่าสถาบันมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) นับตั้งแต่มีการยื่นความจำนงในการขอเข้ารับการคัดเลือก การคัดเลือกบุคคลเข้าร่วมการอบรม การเข้ารับการอบรม ตลอดจนถึงภายหลังจบการอบรมหลักสูตร โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิต่าง ๆ ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนช่องทางในการติดต่อสถาบัน ดังต่อไปนี้
4.1.1 ในการยื่นความจำนงเข้าอบรม สถาบันจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แจ้งความจำนง เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อายุ อาชีพ หน่วยงาน/องค์กร อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ ที่ผู้แจ้งความจำนงส่งให้สถาบันเพื่อประกอบการแสดงเจตจำนงเข้าร่วมการอบรม
4.1.2 เมื่อได้รับคัดเลือกให้เข้าอบรมแล้ว
4.1.2.1 สถาบันอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างของผู้เข้าอบรมเพิ่มเติม เช่น ภาพถ่าย หรือภาพเคลื่อนไหว หรือการบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น Unique identifier (UID) ของ Line เป็นต้น ตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ ที่ปรากฏอยู่ในแบบฟอร์มการลงทะเบียนเข้าอบรม และ/หรือ แบบสอบถามต่าง ๆ ที่สถาบันจะได้ส่งให้ เช่น แบบสอบถามการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น หากผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรมไม่ประสงค์จะให้ข้อมูลในรายการใด ให้ใส่เครื่องหมาย “-” ลงในช่องนั้น
4.1.2.2 โดยทั่วไปแล้ว สถาบันไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารแสดงประวัติส่วนตัวของผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรม เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ
หากผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรมได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่สถาบัน ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรมมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรมอนุญาตให้สถาบันดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากสถาบันไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ สถาบันจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
สำหรับเอกสารแสดงประวัติส่วนตัวนั้น ผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรมไม่จำเป็นต้องระบุถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ศาสนา หรือหมู่โลหิตของท่าน หากท่านได้มอบเอกสารแสดงประวัติส่วนตัวของท่านซึ่งมีข้อมูลดังกล่าวให้แก่สถาบัน สถาบันจะทำการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น ทั้งนี้ หากสถาบันไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ สถาบันจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารประกอบการสมัครเข้าอบรมเท่านั้น
4.1.2.3 สถาบันอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive Data) ของผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรมบางประการ เช่น ลายนิ้วมือ เป็นต้น ในกรณีที่สถาบันจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดเหล่านั้น สถาบันจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรมเป็นกรณีไป
4.1.2.4 ในระหว่างการอบรม การทัศนศึกษา การสัมมนา และการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนในหลักสูตร วพน. สถาบันอาจมีการบันทึกภาพนิ่ง และหรือภาพเคลื่อนไหวและเสียงในรูปแบบวิดีทัศน์ ซึ่งอาจมีการจับภาพและเสียง การแสดงความคิดเห็น การตอบคำถาม ตลอดจนการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้เข้าอบรมไว้ด้วย
4.1.3 สถาบันอาจบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรม กับสถาบัน และ/หรือ จัดเก็บ บันทึก และ/หรือประมวลผลข้อมูลรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรม และ/หรือ การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงการบริการของสถาบัน
4.1.4 ในกรณีที่ผู้แจ้งความจำนง และหรือผู้เข้าอบรมให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ครบถ้วน หรือกรณีที่ผู้แจ้งความจำนง และหรือผู้เข้าอบรมไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้เป็นปัจจุบัน สถาบันอาจสืบค้นเพิ่มเติม หรือตรวจสอบข้อมูลที่ผู้แจ้งความจำนงและหรือผู้เข้าอบรมให้มากับแหล่งข้อมูลที่เข้าถึงได้โดยทั่วไป เพื่อปรับปรุงให้ข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน
4.1.5 ในกรณีที่ผู้แจ้งความจำนง และหรือผู้เข้าอบรมให้ข้อมูลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าอบรมแก่สถาบัน เช่น ชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์หรือข้อมูลการติดต่อของเลขานุการ ข้อมูลของของคู่สมรสหรือบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น ผู้แจ้งความจำนง และหรือผู้เข้าอบรมขอรับรองว่า ผู้แจ้งความจำนง และหรือผู้เข้าอบรมมีอำนาจจะให้ข้อมูลดังกล่าวนั้น และอนุญาตให้สถาบันประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามรายละเอียดในข้อตกลงฉบับนี้ ทั้งนี้ ผู้แจ้งความจำนง และหรือผู้เข้าอบรมจะเป็นผู้รับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลอื่นนั้นทราบถึงรายละเอียดในข้อตกลงฉบับนี้ และขอความยินยอมจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง (หากจำเป็น)
4.1.6 เมื่อผู้เข้าอบรมสำเร็จหลักสูตร วพน. แล้ว สถาบันจะยังคงเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะศิษย์เก่าไว้ เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อายุ เบอร์โทรศัพท์ อาชีพ หน่วยงาน/องค์กรต้นสังกัด อีเมล รุ่นที่อบรมหลักสูตร วพน. เป็นต้น และสถาบันอาจขอข้อมูลบางประการจากท่านเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลตำแหน่งงานปัจจุบัน ข้อมูลการติดต่อเลขานุการ ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ความพึงพอใจ หรือข้อมูลตามการตอบแบบสอบถาม หรือข้อมูลการร่วมกิจกรรมกับสถาบัน เช่น ข้อมูลการลงทะเบียน รหัสประจำตัวประชาชน อาหารที่ไม่รับประทาน ภาพถ่าย ขนาดเสื้อ เป็นต้น
4.1.7 ในกรณีที่ศิษย์เก่าไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้เป็นปัจจุบัน สถาบันอาจสืบค้นเพิ่มเติม หรือตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของศิษย์เก่าที่สถาบันมีอยู่กับแหล่งข้อมูลที่เข้าถึงได้โดยทั่วไป เพื่อปรับปรุงให้ข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน
4.1.8 ในกรณีที่ศิษย์เก่าได้ให้ข้อมูลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับตนแก่สถาบัน เช่น ชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์หรือข้อมูลการติดต่อของเลขานุการ ข้อมูลของของคู่สมรสหรือบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น ศิษย์เก่าขอรับรองว่า ศิษย์เก่ามีอำนาจจะให้ข้อมูลดังกล่าวนั้น และอนุญาตให้สถาบันทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามรายละเอียดในข้อตกลงฉบับนี้ ทั้งนี้ ศิษย์เก่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลอื่นนั้นทราบถึงรายละเอียดในข้อตกลงฉบับนี้ และขอความยินยอมจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง (หากจำเป็น)
4.2.1 สำหรับผู้แจ้งความจำนง และหรือผู้เข้าอบรม
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แจ้งความจำนง และหรือผู้เข้าอบรมของหลักสูตร วพน. นั้น สถาบันจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้แก่ผู้แจ้งความจำนง และหรือผู้เข้าอบรม ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้
4.2.1.1 การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
4.2.1.2 ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
4.2.1.3 การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
4.2.1.4 การปฏิบัติตามกฎหมาย สำหรับวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
การเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรมเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายและข้อเรียกร้องการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ องค์การมหาชน องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ หรือศาล
4.2.1.5 ความยินยอม สำหรับวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
4.2.2 สำหรับศิษย์เก่า
เมื่อผู้เข้าอบรมสำเร็จหลักสูตร วพน. แล้ว สถาบันอาจยังประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะศิษย์เก่าของหลักสูตร วพน. โดยสถาบันจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้ง ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้
4.2.2.1 ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
4.2.2.2 การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
4.2.2.3 การปฏิบัติตามกฎหมาย สำหรับวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
การเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของศิษย์เก่าเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายและข้อเรียกร้องการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ องค์การมหาชน องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ หรือศาล
4.2.2.4 ความยินยอม สำหรับวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
การเก็บและใช้ ชื่อนามสกุล และข้อมูลการติดต่อของท่าน เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น เพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร หรือกิจกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารหรือกิจกรรมที่น่าสนใจจากสถาบันเมื่อท่านสำเร็จหลักสูตรแล้ว ผ่านช่องทางจดหมาย และ/หรือ ข้อความทางโทรศัพท์ และ/หรือ E-mail หรือช่องทางการติดต่ออื่นที่ท่านแจ้งไว้กับสถาบัน โดยสถาบันอาจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้กับตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการติดต่อส่งข่าวสารประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ในกรณีที่สถาบันมอบหมายให้บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ดำเนินการ
4.2.3 สำหรับเลขานุการ หรือบุคคลอื่นที่ผู้แจ้งความจำนง ผู้เข้าอบรม หรือศิษย์เก่าได้ให้ข้อมูลไว้กับสถาบัน
สถาบันอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมลหรือข้อมูลเพื่อการติดต่ออื่น ๆ ของท่านมาจากผู้แจ้งความจำนง หรือผู้เข้าอบรม หรือศิษย์เก่าของหลักสูตร วพน. ซึ่งสถาบันอาศัยความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการติดต่อประสานงานหรือการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน และในกรณีที่ท่านเป็นเลขานุการของผู้เข้าอบรม หรือศิษย์เก่าสถาบันอาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของท่านให้กับผู้เข้าอบรม หรือศิษย์เก่าท่านอื่น เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้เข้าอบรม และ/หรือศิษย์เก่าในรุ่นเดียวกัน
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ สถาบันอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็น ดังต่อไปนี้
4.3.1 กระทรวงพลังงาน
4.3.2 บริษัทในกลุ่ม ปตท.
4.3.3 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ องค์การมหาชน องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ กรมสรรพากร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นต้น
4.3.4 วิทยากร
4.3.5 บริษัท หน่วยงาน หรือองค์กรภายนอกอื่น ๆ เพื่อการประสานงานเกี่ยวกับการศึกษาดูงาน
4.3.6 ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ เช่น
(1) นิติบุคคลหรือบุคคลใด ๆ ที่สถาบันเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ด้วย เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการภายในของสถาบัน หรือจัดให้มีการบริการหรือจัดให้มีการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าอบรม และสถาบันอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าอบรมไปยังบุคคลหรือนิติบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ของผู้เข้าอบรม
(2) ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายในและภายนอกของสถาบัน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ให้บริการระบบคลาวด์
4.3.7 ผู้เข้าอบรม หรือศิษย์เก่าท่านอื่นที่ได้เข้าอบรมหลักสูตรของสถาบัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อและ/หรือเพื่อประโยชน์ในการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางรายการผ่านสมุดรายนาม (Directory) ใน mobile application เป็นต้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่ระบุในเอกสารฉบับนี้
4.3.8 ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.thailand-energy-academy.org โดยจะเปิดเผยเฉพาะ ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตร เช่น ภาพถ่าย รายชื่อ ตำแหน่ง หน่วยงานต้นสังกัด รวมถึงภาพการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
4.3.9 หน่วยงานต้นสังกัดเพื่อใช้ประกอบในการเสนอรายชื่อผู้เข้าอบรมจากหน่วยงานนั้นๆ สำหรับรุ่นถัดๆ ไป
4.3.10 โรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล
ผู้แจ้งความจำนงมีสิทธิปฏิเสธการให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางรายการแก่สถาบัน ซึ่งในกรณีที่ผู้แจ้งความจำนงให้ข้อมูลที่จำเป็นไม่ครบถ้วน สถาบันขอสงวนสิทธิในการไม่พิจารณาคัดเลือกให้เข้ารับการอบรม โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และสถาบันไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ในกรณีที่ผู้เข้าอบรมให้ข้อมูลประกอบการลงทะเบียนในระบบของสถาบันไม่ครบถ้วน อาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกหรือไม่ได้รับบริการบางประการ สถาบันขอสงวนสิทธิในการพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม และสถาบันไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ในความไม่สะดวกหรือไม่ได้รับบริการผู้เข้าอบรมรายนั้น
สถาบันจะแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือประชาสัมพันธ์ที่น่าสนใจจากสถาบันให้ผู้เข้าอบรม และหรือศิษย์เก่า ตามวัตถุประสงค์ในข้อ 4.2.1.4 และ 4.2.2.3 ผ่านช่องทางที่ผู้เข้าอบรม และหรือศิษย์เก่าได้แสดงเจตนาไว้
ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และ สามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของตนได้ตามช่องทางที่สถาบันกำหนดในข้อ 4.10 โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับสถาบัน (ปตท.) ซึ่งสิทธิต่าง ๆ ดังกล่าวนั้น มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
4.6.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่สถาบันขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่สถาบันในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของของตนเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่สถาบันก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ในบางกรณี หากท่านถอนความยินยอม ท่านอาจได้รับความสะดวกในการใช้บริการน้อยลง พลาดสิทธิประโยชน์และข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ ในอนาคต หรือได้รับผลกระทบอื่น ๆ ในการใช้บริการของสถาบัน
4.6.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสถาบัน รวมถึงขอให้สถาบันเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
4.6.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)
ในกรณีที่สถาบันได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนจากสถาบันได้ รวมทั้งมีสิทธิ ดังต่อไปนี้
ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายกำหนด
4.6.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน สำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงและกรณีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
4.6.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)
ท่านมีสิทธิขอให้สถาบันลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้
4.6.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้สถาบันระงับการใช้ข้อมูลของท่าน ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้
4.6.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
สถาบันพยายามที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่สถาบันมีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้สถาบันแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
4.6.8 สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อสถาบันฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
สถาบันจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในข้อตกลงฉบับนี้ โดยหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่สถาบันยังคงดำเนินความสัมพันธ์หรือให้บริการแก่ท่าน ระยะเวลาที่สถาบันยังคงมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของสถาบัน
เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล สถาบันจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้แล้วเสร็จภายใน 60 (หกสิบ) วัน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
ในบางกรณี สถาบันอาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าว สถาบันจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
สถาบันมีการพิจารณาทบทวนและอาจแก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามความเหมาะสมอยู่เป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สถาบันจะดำเนินการแจ้งให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของสถาบันหรือผ่านทางอีเมลที่ท่านแจ้งไว้
หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการแจ้งการขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ สามารถติดต่อสถาบันได้ที่
สถานที่ติดต่อ : 555 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
เบอร์โทรศัพท์ : 02-537-2300
สถานที่ติดต่อ : 555 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
เบอร์โทรศัพท์ : 02-537-2300
อีเมล : pttdpo@pttplc.com