แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ใช้บริการสถานพยาบาล

       บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ปตท.” หรือ “เรา”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการสถานพยาบาลของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ได้ให้ข้อมูลไว้กับเรา และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจึงได้กำหนดแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้น ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อเรา ดังต่อไปนี้  

1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

       ในการให้บริการของสถานพยาบาลของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีความจำเป็นต้องดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้บริการสถานพยาบาล ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

ข้อ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
1 เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงการให้บริการทางการแพทย์ของ ปตท. รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ในการเข้ารับบริการ และการให้บริการทางการแพทย์ เช่น
  - การนัดหมายแพทย์ 
  - การยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ
  - การตรวจรักษา
  - การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
  - การบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่ายของบริการทางการแพทย์ และสวัสดิการของพนักงาน ปตท. และบริษัทในกลุ่ม ปตท. ซึ่งหมายความรวมถึงการเบิกค่ารักษาพยาบาล การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามสวัสดิการการรักษาพยาบาลของพนักงาน และสมาชิกในครอบครัวของพนักงาน รวมถึงบุคคลผู้มีสิทธิเข้าใช้บริการทางการแพทย์ตามนโยบายของ ปตท.
การปฏิบัติตามสัญญา
(Contractual Basis)
2 เพื่อดำเนินการและบริหารงานต่าง ๆ ตามบันทึกข้อตกลงการให้บริการทางการแพทย์ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับบริษัทในกลุ่ม ปตท. ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
3 เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของท่าน การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพบุคคล
(Vital Interests)
4 เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายและข้อเรียกร้องการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงรายงานข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หรือศาล อัยการ เป็นต้น การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
5 เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
6 เพื่อการตรวจสอบและจัดการเกี่ยวกับข้อร้องเรียนต่าง ๆ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้าง หรือข้อตกลงการให้บริการทางการแพทย์ รวมทั้งการสืบสวน สอบสวน หรือกระบวนการทางกฎหมายอื่นใด ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
7 เพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายในองค์กร และเพื่อสร้างมาตรฐานในการให้บริการและใช้บริการส่วนการแพทย์ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)

       เราขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการสถานพยาบาลที่ได้ให้ข้อมูลไว้กับเรานั้น เราอาศัยฐานทางกฎหมายประการต่าง ๆ ตามที่แจ้งไว้นี้ โดยไม่ได้อาศัยความยินยอม แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณีที่เราไม่อาจใช้ฐานทางกฎหมายเหล่านี้ได้ เช่น กรณีที่กฎหมายกำหนดให้จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive data) เป็นต้น ในกรณีเช่นนั้น เราจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน (โปรดอ่านเอกสารขอความยินยอมของเราเพิ่มเติมจากเอกสารนี้)  

       ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ เราเก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อเราในการปฏิบัติตามสัญญาหรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว เราอาจไม่สามารถให้บริการทางการแพทย์ หรือไม่สามารถบริหารจัดการสัญญาตามวัตถุประสงค์ของการให้บริการได้ และหรืออาจมีผลต่อการได้รับสิทธิสวัสดิการ หรือการจัดการอำนวยความสะดวกให้กับท่าน

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

       โดยทั่วไปแล้ว ปตท. จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง เช่น การให้ท่านกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่ ปตท. กำหนด หรือสอบถามจากท่าน หรือขอให้ท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ ปตท. แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่ ปตท. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น เช่น

  • บริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่เข้าทำข้อตกลงการให้บริการทางการแพทย์กับ ปตท.
  • โรงพยาบาลคู่สัญญาตามสัญญาจ้างบริการทางการแพทย์

       ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ปตท. ดำเนินการเก็บรวบรวมนั้น มีดังต่อไปนี้

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  1. ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส น้ำหนัก ส่วนสูง ลายมือชื่อ ภาพถ่าย
  2. ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
  3. ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงาน เช่น วันที่เริ่มทำงาน รหัสพนักงาน วันที่สิ้นสุดสัญญาจ้าง
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน

       ปตท. ไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ ในกรณีที่ท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ ปตท. ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้ ปตท. ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หาก ปตท. ไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ ปตท. จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น

       อย่างไรก็ตาม หาก ปตท. มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เพื่อวัตถุประสงค์ใด ปตท. จะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ ปตท. อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้

  1. ข้อมูลสุขภาพ
  2. ข้อมูลเกี่ยวกับความพิการ
3. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล  

       ปตท. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่ ปตท. ยังมีความสัมพันธ์กับท่าน และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของ ปตท.

4. การเปิดเผยข้อมูล

       ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ ปตท. อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้

  1. บริษัทในกลุ่ม ปตท. เพื่อดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น
  2. หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล อัยการ ตำรวจ เป็นต้น
  3. โรงพยาบาลคู่สัญญาตามสัญญาจ้างบริการทางการแพทย์

5. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล

       ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่ ปตท. กำหนดในข้อ 7. หรือผ่านเว็บไซต์ของ ปตท. โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับ ปตท. สิทธิต่าง ๆ ของท่านมีรายละเอียด ดังนี้

5.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)

       ในกรณีที่ ปตท. ขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับ ปตท. ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน

       ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

5.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)

       ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ปตท. รวมถึงขอให้ ปตท. เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อ ปตท. ได้

5.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)

       ท่านมีสิทธิขอให้ ปตท.โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับ ปตท. ได้ตามที่กฎหมายกำหนด

5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)

       ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด

5.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)

       ท่านมีสิทธิขอให้ ปตท. ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม ปตท. อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น ปตท. จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้

5.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)

       ท่านมีสิทธิขอให้ ปตท. ระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด

5.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right)

       กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่ ปตท. มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้ ปตท. แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

5.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)

       ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หาก ปตท.ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

6. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้

       เราอาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น เราจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของ ปตท. และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านเราจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย

7. วิธีการติดต่อ

       ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อ ปตท. ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

สถานที่ติดต่อ :          555 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

เบอร์โทรศัพท์ :          02-537-2300


เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สถานที่ติดต่อ :          555 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

เบอร์โทรศัพท์ :          02-537-2300

อีเมล :                      pttdpo@pttplc.com